Trang này có thể chứa nội dung của bên thứ ba, được cung cấp chỉ nhằm mục đích thông tin (không phải là tuyên bố/bảo đảm) và không được coi là sự chứng thực cho quan điểm của Gate hoặc là lời khuyên về tài chính hoặc chuyên môn. Xem Tuyên bố từ chối trách nhiệm để biết chi tiết.
Kiểm soát tài chính chặt chẽ với 9 ứng dụng ghi nhận thu chi cần thử năm 2025
ในยุคที่การจัดการเงินกลายเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับทุกคน แอปจดรายรับรายจ่ายได้กลายเป็นเครื่องมือที่ไม่อาจขาดได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เริ่มต้นหัดวางแผนทางการเงิน หรือผู้ที่ต้องการติดตามการใช้จ่ายอย่างละเอียด บทความนี้จะนำเสนอ 9 แอปจดรายรับรายจ่ายที่ได้รับความนิยมและการอัปเดตใหม่ในปี 2025 ทั้ง iOS และ Android พร้อมการวิเคราะห์ฟีเจอร์ที่สำคัญ เพื่อให้คุณเลือกได้ตรงกับความต้องการของตัวเอง
แอปจดรายรับรายจ่ายสำคัญที่ต้องรู้จักในปี 2025
การทำบัญชีส่วนตัวผ่านมือถือนับวันยิ่งได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น บุคคลหลายคนกำลังค้นหาวิธีการประหยัดและการลงทุนที่เหมาะสม แอปจดรายรับรายจ่ายเหล่านี้ถูกออกแบบให้ช่วยเอื้ออำนวยในการบริหารการเงินส่วนบุคคลได้อย่างสุขสบาย พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรูปแบบการใช้จ่ายของคุณ
1. Money Manager Expense & Budget – เครื่องมือครบครันสำหรับการควบคุมทรัพย์สิน
แอปพลิเคชันนี้ได้รับการปรับปรุงอย่างดีสำหรับการบริหารทรัพย์สินส่วนบุคคล ด้วยฟีเจอร์ PC Manager ที่ยินยอมให้คุณเข้าถึงข้อมูลการเงินบนคอมพิวเตอร์ผ่าน Wi-Fi นอกจากนี้ คุณสามารถสร้างระบบบัญชีได้หลากหลาย จำแนกรายการตามวันที่ หมวดหมู่ หรือกลุ่มบัญชีอื่นๆ
ความโดดเด่นของแอปนี้คือการจัดการบัตรเครดิตและธุรกรรมที่ทำซ้ำ คุณสามารถเชื่อมโยงบัตรเดบิตเพื่อดูยอดคงเหลือและจำนวนเงินค้างชำระได้เลย นอกจากนี้ยังรองรับการโอนเงิน หักบัญชีโดยตรง และการบันทึกธุรกรรมประจำ ทำให้การติดตามค่าใช้จ่ายประจำเช่น เงินเดือน เงินกู้ และประกันภัยเป็นเรื่องสะดวก
ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลได้รับการดูแลด้วยระบบรหัสผ่าน สถิติอัปเดตแบบเรียลไทม์ และความสามารถในการสำรองข้อมูลผ่าน Google Drive หรือไฟล์ Excel
ข้อดี
ข้อเสีย
ดาวน์โหลด: Google Play App Store
2. Money Lover – ผู้ช่วยทางการเงินส่วนบุคคล
แอปพลิเคชันนี้ได้รับการเลือกใช้จากผู้ใช้มากกว่า 5 ล้านคนทั่วโลก เพราะช่วยให้คุณดูแลรายได้ รายจ่าย บิล และหนี้สินได้อย่างครบครัน ตัวแอปสามารถให้รายงานที่ชัดเจนและทันใจ เพื่อให้คุณเห็นว่าเงินของคุณไหลไปทีไร
ประโยชน์เด่นของ Money Lover คือการช่วยวางแผนงบประมาณอย่างชาญฉลาด ไม่เพียงแต่ตั้งขีดจำกัดการใช้จ่ายเท่านั้น แล้งยังคาดการณ์การใช้จ่ายข้างหน้าโดยอิงจากข้อมูลอดีตได้ด้วย คุณสามารถตั้งค่าธุรกรรมประจำวนอัตโนมัติ รับการแจ้งเตือน และจัดการสกุลเงินหลายประเภท
สำหรับผู้ที่ต้องการฟีเจอร์ขั้นสูงกว่า Money Lover เสนอแพ็กเกจสมาชิก Premium ซึ่งรวมถึงกระเป๋าเงินหลายใบ รายงานทางการเงินแบบละเอียด และการเชื่อมโยงบัญชีธนาคารเพื่ออัพเดตอัตโนมัติ
ข้อดี
ข้อเสีย
ดาวน์โหลด: Google Play App Store
3. Spendee Budget & Money Tracker – ระบบติดตามการใช้จ่ายแบบภาพ
Spendee ช่วยให้คุณเห็นภาพสวยงามของนิสัยการใช้จ่ายทั้งหมดในเพียงที่เดียว แอปนี้สามารถรวมข้อมูลจากธนาคารออนไลน์ กระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น PayPal หรือกระเป๋าสตางค์ดิจิทัลอื่นๆ ทำให้คุณควบคุมและตัดสินใจได้อย่างหนักแน่น
ระบบจำแนกค่าใช้จ่ายอัตโนมัติและแสดงผลเป็นกราฟสวยงามที่ง่ายต่อการทำความเข้าใจ ด้วยการมองเห็นข้อมูลแบบนี้ช่วยให้คุณระบุรูปแบบการใช้จ่าย กำหนดวงเงินสำหรับแต่ละกลุ่ม และติดตามความคืบหน้าเพื่อบรรลุเป้าหมายเงินออม
Spendee ยังมีบทบาทเป็นที่ปรึกษาการเงินส่วนบุคคล โดยให้ความเห็นและคำแนะนำในการบริหารเงินอย่างมีสติ และช่วยสร้างกองทุนฉุกเฉินที่มั่นคงได้
ข้อดี
ข้อเสีย
ดาวน์โหลด: Google Play App Store
4. MeowJot – เครื่องมือสแกนใบเสร็จสำหรับคนไทย
MeowJot ใช้เทคโนโลยี OCR ในการตรวจจับและแยกข้อมูลจากภาพใบเสร็จ สลิปโอนเงิน และรูปถ่าย QR โดยอัตโนมัติ ทำให้การบันทึกค่าใช้จ่ายวันต่อวันกลายเป็นเรื่องสะดวก เพียงอัปโหลดสลิปธนาคาร ระบบจะจัดการส่วนที่เหลือให้
แอปนี้ดีเหมาะสำหรับผู้ใช้ไทยที่ใช้ PromptPay หรือโอนเงินผ่านธนาคารเป็นประจำ รองรับการอัปเดตสถิติค่าใช้จ่ายแบบไลฟ์ และแสดงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้จ่ายของคุณ คุณสามารถปรับแต่งหมวดหมู่ เพิ่มแท็ก และใช้อินเทอร์เฟซแบบเวลาไลน์ที่ทันสมัย
MeowJot ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับธนาคารไทย และรองรับรูปแบบสลิปจากสถาบันการเงินต่างๆ เช่น SCB, KBank, Krungsri เป็นต้น
ข้อดี
ข้อเสีย
ดาวน์โหลด: Google Play App Store
5. MeTang: Expense Manager – การจัดการค่าใช้จ่ายด้วยเสียง
MeTang ให้ความสะดวกในการบันทึกรายรับและรายจ่ายส่วนบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณสามารถใช้คำสั่งเสียงในการบันทึกข้อมูล ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและทำให้การใช้งานลื่นไหลขึ้น เพียงกดปุ่มและพูด ระบบจะแปลงข้อมูลเป็นรายการรายรับและรายจ่ายโดยอัตโนมัติ
ความสำคัญของ MeTang คือความหลากหลายในการตั้งค่าบัญชี รองรับหลายบัญชีเช่น เงินสด เงินฝาก และบัตรเครดิต นอกจากนี้ยังให้เลือกหมวดหมู่ได้มากมายและย้ำการรักษาความปลอดภัยด้วยลายนิ้วมือ รหัสผ่าน และ Face ID
ข้อดี
ข้อเสีย
ดาวน์โหลด: Google Play App Store
6. Piggipo – ผู้ช่วยเฉพาะสำหรับผู้ใช้บัตรเครดิต
Piggipo ออกแบบมาเพื่อให้การจัดการเงินสะดวกเหมือนการใช้จ่าย และมีการเน้นเฉพาะสำหรับผู้ใช้บัตรเครดิต แอปนี้รวบรวมยอดคงเหลือและธุรกรรมบัตรเครดิตทั้งหมดไว้ในที่เดียว ทำให้คุณเห็นภาพสถานะการเงินอย่างชัดเจน
ผู้ใช้ไม่เพียงแต่สามารถติดตามรายรับและรายจ่ายในกระเป๋าต่างๆเท่านั้น แล้งยังสามารถคำนวณดอกเบี้ยบัตรและจัดการค่าใช้จ่ายวันต่อวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Piggipo ให้ผู้ใช้สร้างบัตรเครดิตและกระเป๋าสตางค์ได้ไม่จำกัด ติดตามเงินแคชแบ็ก และจัดการการชำระเงินล่วงหน้า ระบบ Billbox ของแอปช่วยตรวจสอบความถูกต้องของบิลก่อนชำระ ในขณะที่ระบบแจ้งเตือนจะเตือนคุณเกี่ยวกับวันครบกำหนด ป้องกันค่าธรรมเนียมที่ไม่ต้องการ
นอกจากนี้ ผู้ใช้สามารถแนบภาพกับธุรกรรม กำหนดตำแหน่ง และดูสรุปค่าใช้จ่ายผ่านกราฟที่เข้าใจง่ายได้ สำหรับผู้ใช้ขั้นสูง มีฟีเจอร์เช่น ส่งออก Excel ไม่จำกัด วางแผนการใช้จ่ายข้างหน้า และเข้าถึงประวัติการใช้จ่าย การสนับสนุน VIP ให้ความช่วยเหลือเฉพาะตัวและแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว
ข้อดี
ข้อเสีย
ดาวน์โหลด: Google Play App Store
7. Budge – การวางแผนเงินออมแบบมองเห็น
Budge ช่วยให้คุณวางแผน ออม และสร้างนิสัยการใช้จ่ายที่ดีได้ง่ายดาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการตั้งเป้าหมายการออม ติดตามการใช้จ่ายตามหมวดหมู่ และควบคุมตัวเองให้อยู่ในงบประมาณ
แอปมีอินเทอร์เฟซที่สมัยใหม่และสีสันสดใส ทำให้การจัดทำงบประมาณน่าสนใจและกระตุ้นแรงบันดาลใจ คุณสามารถแบ่งค่าใช้จ่ายเป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน และติดตามความคืบหน้าไปสู่เป้าหมายการเงินที่กำหนดชัดเจน เช่น การเดินทาง การชำระหนี้ หรือกองทุนฉุกเฉิน
Budge รองรับแดชบอร์ดแบบรูปภาพ ระบบแจ้งเตือน และกระเป๋าเงินหลายใบ จึงเหมาะสำหรับการใช้งานส่วนตัวและการแบ่งปันกับครอบครัว
ข้อดี
ข้อเสีย
ดาวน์โหลด: Google Play
8. Daak – Budget & Expense App – ความเรียบง่ายที่มีประสิทธิภาพ
Daak เป็นแอปที่ใช้งานง่าย ช่วยให้คุณติดตามค่าใช้จ่ายรายวันได้ในไม่กี่วินาที เน้นความเรียบง่าย เพียงป้อนข้อมูล เลือกหมวดหมู่ แค่นี้ก็เสร็จ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่ต้องการเครื่องมือง่ายๆ
แอพรองรับธุรกรรมประจำ สรุปค่าใช้จ่าย และหมวดหมู่ที่ปรับแต่งได้ คุณยังสามารถกำหนดวงเงินเป็นรายสัปดาห์หรือรายเดือนได้ ถึงแม้ว่าจะไม่มีการวิเคราะห์เชิงลึก แต่ด้วยลักษณะที่เรียบง่าย แอปนี้จึงดึงดูดผู้ใช้ที่ต้องการความชัดเจนและไม่ซับซ้อน
ข้อดี
ข้อเสีย
ดาวน์โหลด: Google Play App Store
9. Oh My Cost – บันทึกการใช้จ่ายแบบสนุกสนาน
Oh My Cost เป็นแอพที่ทำให้การบันทึกรายรับและรายจ่ายประจำวันเป็นเรื่องง่ายและสนุก ด้วยไอคอนสวยงามมากกว่า 500 แบบ แอพนี้ช่วยให้คุณติดตามค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพในแต่ละวัน
แอพช่วยให้คุณบันทึกค่าใช้จ่ายได้หลากหลาย ตั้งแต่การซื้อเสบียงในชีวิตประจำวัน เช่น กาแฟ ไปจนถึงเหตุการณ์ต่างๆ คุณติดตามรายจ่ายได้อย่างเรียบง่ายในไม่กี่คลิก
นอกจากการติดตามพื้นฐาน Oh My Cost ยังอนุญาตให้ตั้งค่าบัญชีผู้ใช้หลายบัญชี ทำให้เหมาะสำหรับการจัดการการเงินส่วนตัวและครอบครัว ตัวแอพให้คุณกำหนดเป้าหมายค่าใช้จ่ายรายเดือนและแสดงความคืบหน้า ช่วยให้คุณอยู่ในงบประมาณได้ คุณสามารถปรับแต่งหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์และเพิ่มหมายเหตุสำหรับการติดตามรายละเอียดได้
ข้อดี
ข้อเสีย
ดาวน์โหลด: App Store
ตารางเปรียบเทียบแอปจดรายรับรายจ่าย 2025
บทสรุป
แอปจดรายรับรายจ่ายเป็นตัวช่วยที่สำคัญสำหรับการเก็บเงินและการควบคุมการใช้จ่ายในวันนี้ โดยมี 9 แอปจดรายรับรายจ่ายปี 2025 ที่นำเสนอนี้ไม่เพียงแต่ออกแบบให้ใช้งานสะดวก แต่ยังเป็นการฝึกนิสัยการบันทึกบัญชีของคุณให้ดีขึ้น แต่ละแอปสามารถดาวน์โหลดและใช้งานฟรีได้ ลองเลือกแอปจดรายรับรายจ่ายที่ตรงกับวิธีการใช้จ่ายของคุณและเริ่มจัดการเงินอย่างฉลาด