Saham pembangkit listrik dengan imbal hasil tinggi | Informasi penting dan strategi investasi yang perlu Anda ketahui

Mengapa saham pembangkit listrik menarik perhatian investor?

Saham pembangkit listrik adalah aset yang memiliki karakteristik “Defensive Stocks” atau saham aman. Hal ini dikarenakan energi listrik merupakan kebutuhan dasar yang tidak dapat diabaikan dalam operasional industri dan rumah tang tangga. Permintaan ini bersifat berkelanjutan dan stabil sepanjang waktu, sehingga perusahaan di sektor ini memiliki potensi untuk menghasilkan arus kas yang tetap dan laba yang dapat diperkirakan

Selain stabilitas, bisnis energi juga didukung oleh kebijakan pemerintah seperti Rencana Pengembangan Kapasitas Pembangkitan (PDP) dan Rencana Pengembangan Energi Terbarukan (AEDP) yang membuka peluang ekspansi dan investasi baru dalam jangka panjang

Komponen utama dalam analisis saham pembangkit listrik

Strategi dan arah pertumbuhan

Saat mempertimbangkan pembelian saham pembangkit listrik, investor harus menilai rencana ekspansi perusahaan, baik melalui kemitraan dengan investor lain, pembangunan pembangkit listrik tambahan, maupun perluasan operasi di pasar internasional. Data ini membantu menunjukkan kemampuan perusahaan dalam menciptakan nilai tambah bagi pemegang saham di masa depan.

Tren industri dan kondisi ekonomi

Pertumbuhan saham pembangkit listrik berkaitan langsung dengan permintaan listrik domestik. Ketika ekonomi berkembang dan produksi meningkat, kebutuhan energi juga akan meningkat. Situasi ini menjadi faktor positif untuk investasi di perusahaan pembangkit listrik.

Karakteristik dan ketentuan kontrak jual beli listrik

Kontrak jual beli listrik (Power Purchase Agreement) merupakan faktor penting dalam menilai risiko. Perusahaan yang memiliki kontrak jangka panjang dengan pelanggan yang stabil akan memiliki pendapatan yang jelas dan dapat diperkirakan. Variabel utama meliputi durasi kontrak, tarif pembayaran, dan karakteristik proyek.

Klasifikasi pembangkit listrik

Pembangkit listrik dibagi menjadi tiga kategori berdasarkan kapasitas produksinya:

  • IPP (Pembangkit listrik swasta besar): kapasitas mulai dari 90 MW ke atas
  • SPP (Pembangkit listrik swasta menengah): kapasitas 10-90 MW
  • VSPP (Pembangkit listrik swasta kecil): kapasitas kurang dari 10 MW

Jenis energi dan peluang investasi

Energi Surya (Solar Power)

Perusahaan di bidang ini memproduksi listrik dari sinar matahari, yang merupakan energi ramah lingkungan. Jenis energi ini memiliki biaya awal yang meningkat, tetapi biaya operasionalnya rendah dan umur pakainya panjang.

Energi air (Hydropower)

Pembangkit listrik tenaga air menggunakan kekuatan aliran air untuk menghasilkan listrik. Populer di daerah dengan sumber air alami yang cukup, merupakan sumber energi yang stabil dan dapat dikendalikan.

Gas alam (Natural Gas)

Bisnis pembangkit listrik dari gas alam saat ini sangat efisien karena bersih dan memiliki kemungkinan pengendalian emisi polusi.

Energi terbarukan lainnya

Perusahaan tertentu berinvestasi dalam energi angin, biomassa, dan sumber energi terbarukan lain untuk mendukung transisi menuju ekonomi rendah karbon.

Perbandingan saham pembangkit listrik terkemuka

Nama Perusahaan Singkatan Pendapatan 6 bulan Laba 6 bulan Harga saat ini Imbal hasil YTD
บ้านปู เพาเวอร์ BANPU 90,673.73 juta Baht 2,488.71 juta Baht 111.50 Baht -5.88%
กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี GULF 64,896.44 juta Baht 8,239.79 juta Baht 66.50 Baht +54.49%
โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ GPSC 48,426.98 juta Baht 2,292.55 juta Baht 46.25 Baht -3.09%
บี.กริม เพาเวอร์ BGRIM 28,344.78 juta Baht 607.17 juta Baht 23.40 Baht -12.66%
พลังงานบริสุทธิ์ EA 10,368.81 juta Baht 1,430.44 juta Baht 7.80 Baht -81.36%
เสริมสร้าง พาวเวอร์ SSP 1,709.90 juta Baht 326.89 juta Baht 5.90 Baht -25.62%
ซีเค พาวเวอร์ CKP 5,111.09 juta Baht -387.05 juta Baht 3.70 Baht +19.02%
กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง GUNKUL 5,002.69 juta Baht 761.43 juta Baht 2.80 Baht +2.86%

วิเคราะห์รายตัวของบริษัท

1. BANPU - ผู้นำด้านพลังงานระดับภูมิภาค

บ้านปู เพาเวอร์ เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าระดับสากล โดยดำเนินตามแนวคิด “Powering Society with Quality Megawatts” มีสถานีผลิตไฟฟ้าและโครงการลงทุนมากกว่า 40 แห่งในแปดประเทศทั่วเอเชียและแปซิฟิก เช่น ไทย ลาว จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา

ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา บ้านปู เพาเวอร์ สร้างรายได้ 90,673.73 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 2,488.71 ล้านบาท กำลังการผลิตตามสัดส่วนอยู่ที่ 3,656 เมกะวัตต์ โดยมีสัดส่วนจากพลังงานสะอาดอยู่ที่ 11.20% นักวิเคราะห์จากแพลตฟอร์มการลงทุนมีเป้าหมายราคาสูงสุด 8.00 บาท ต่ำสุด 5.00 บาท และราคาเฉลี่ย 6.75 บาท

2. GULF - องค์กรพลังงานครบวงจร

กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ เป็นผู้นำในภาคพลังงานไทย โดยดำเนินธุรกิจในหลายสาขา ตั้งแต่การผลิตไฟฟ้า จัดการก๊าซ พลังงานทดแทน พลังงานน้ำ ไปจนถึงธุรกิจสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน

ผลดำเนินงานในครึ่งปีแรก แสดงให้เห็นว่ากัลฟ์สร้างรายได้ 64,896.44 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 8,239.79 ล้านบาท ผลตอบแทน YTD อยู่ที่ +54.49% ซึ่งเป็นหนึ่งในผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม ล่าสุดบริษัทประกาศลงทุนในพลังงานหมุนเวียน รับแผนพัฒนากำลังผลิตใหม่ พร้อมวางแผนลงทุน 90,000 ล้านบาทในระยะ 5 ปี และวางแผนสร้างบริษัทใหม่เพื่อพิจารณาการซื้อขายหลักทรัพย์ในบริษัทอื่น นักวิเคราะห์มีเป้าหมายราคา 68.00 บาท (สูง) 49.00 บาท (ต่ำ) และ 56.92 บาท (เฉลี่ย)

3. GPSC - ผู้นำด้านนวัตกรรมพลังงาน

โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ เป็นบริษัทผลิตไฟฟ้าชั้นนำที่มุ่งเน้นการสร้างสรรค์และความยั่งยืนทั่วโลก ใช้กลยุทธ์ “4S” ในการดำเนินการ โดยมีธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ น้ำสำหรับอุตสาหกรรม และสาธารณูปโภคอื่น ๆ

การดำเนินการในครึ่งปีแรก โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ มีรายได้รวม 48,426.98 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,292.55 ล้านบาท ผลตอบแทน YTD -3.09% เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทได้รับอนุมัติเงินกู้ระยะยาว 7,000 ล้านบาท จากสถาบันการเงิน 3 แห่ง เพื่อเสริมสร้างโครงการพลังงานสะอาดและตอบสนองเป้าหมาย Net Zero การคาดการณ์ราคาเป้าหมายจากนักวิเคราะห์อยู่ที่ 61.00 บาท (สูง) 43.50 บาท (ต่ำ) และ 53.46 บาท (เฉลี่ย)

4. BGRIM - ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานผสม

บี.กริม เพาเวอร์ ดำเนินธุรกิจในภาคพลังงาน โดยเน้นความเชี่ยวชาญในการผลิตไฟฟ้าจากระบบความร้อนร่วม (cogeneration) และพลังงานทดแทน ล่าสุดบริษัทได้ขยายกิจกรรมเข้าสู่สาขาอื่น ๆ เช่น สุขภาพ ไลฟ์สไตล์ อสังหาริมทรัพย์ เทคโนโลยีดิจิทัล และการลงทุนอื่น ๆ

ผลดำเนินงาน 6 เดือน แสดงให้เห็นรายได้รวม 28,344.78 ล้านบาท กำไรสุทธิ 607.17 ล้านบาท ผลตอบแทน YTD -12.66% ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ เพิ่งทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดประเภทพลังงานแสงอาทิตย์กับหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งเป็นโอกาสในการเติบโตอีกทาง นักวิเคราะห์คาดเป้าราคา 31.06 บาท (สูง) 19.60 บาท (ต่ำ) และ 26.66 บาท (เฉลี่ย)

5. EA - บริษัทพลังงานสะอาดสมัยใหม่

บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ ดำเนินการภายใต้แนวคิด “Energy Absolute Energy for The Future” โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาพลังงานสะอาด ตั้งแต่พลังงานทดแทน พลังงานทดแทน อุตสาหกรรมแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ของบริษัทนี้เช่น รถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ เรือไฟฟ้า สถานีชาร์จสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน

ในครึ่งปีแรก พลังงานบริสุทธิ์ บันทึกรายได้ 10,368.81 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,430.44 ล้านบาท แต่ผลตอบแทน YTD อยู่ที่ -81.36% ซึ่งสะท้อนความผันผวนของตลาด ปัจจุบันบริษัทกำลังขับเคลื่อนสินค้ารถกระบะไฟฟ้าสัญชาติไทยสำหรับธุรกิจ นักวิเคราะห์มีเป้าหมายราคา 35.00 บาท (สูง) 5.00 บาท (ต่ำ) และ 17.33 บาท (เฉลี่ย)

6. SSP - ผู้บุกเบิกพลังงานสะอาด

เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น เป็นบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็วในจังหวะพลังงานทดแทนของไทย โดยมุ่งมั่นเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทนและวิธีทางใหม่ต่ออนาคตพลังงาน บริษัทลงทุนในโครงการเช่น โฟโตโวลตาอิก ระบบสร้างพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา พลังงานทดแทน และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง

ผลการดำเนินงาน 6 เดือน เสริมสร้าง พาวเวอร์ มีรายได้ 1,709.90 ล้านบาท กำไรสุทธิ 326.89 ล้านบาท ผลตอบแทน YTD -25.62% บริษัทวางแผนขยายสินทรัพย์เกิน 30,000 ล้านบาทในปี 2571 โดยใช้โครงการในภูมิภาคเอเชีย หน่วยวิจัยการเงินจัดอันดับเครดิตองค์กรของเสริมสร้าง พาวเวอร์ ว่า “BBB+” ซึ่งสะท้อนความแข็งแกร่งของระบบการเงินและแนวโน้มการเติบโตในระยะยาว นักวิเคราะห์คาดเป้าราคา 8.90 บาท ซึ่งแสดงถึงการเพิ่มขึ้น 50.85% จากระดับปัจจุบัน

7. CKP - นักธุรกิจก่อสร้างแต่งตัวใหม่

ซีเค พาวเวอร์ เดิมมีชื่อเสียงมากขึ้นเนื่องจากธุรกิจก่อสร้างเพื่อใช้ทั่วไป ปัจจุบันบริษัทได้ลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเป็นพื้นที่หลักของความสนใจ บริษัทเข้าร่วมในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ โครงการโรงไฟฟ้าคอเจนเนอเรชั่น และโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ ผ่านการลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมจำนวน 6 บริษัท

ในรอบครึ่งปีแรก ซีเค พาวเวอร์ มีรายได้ 5,111.09 ล้านบาท แต่ขาดทุนสุทธิ 387.05 ล้านบาท ผลตอบแทน YTD +19.02% แม้ผลการดำเนินงานจะยังไม่ดีเท่าที่หวัง แต่บริษัทได้รับความสนใจในตลาด นักวิเคราะห์มีเป้าหมายราคา 5.20 บาท (สูง) 4.35 บาท (ต่ำ) และ 4.70 บาท (เฉลี่ย)

8. GUNKUL - ผู้ประกาศโครงการ Peer-to-Peer

กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง เป็นบริษัทที่ดำเนินงานด้านพลังงานมาตลอด จากจุดเริ่มต้นด้วยทุนจดทะเบียนเพียง 1 ล้านบาท จนกลายเป็นอาณาจักรธุรกิจมูลค่า 30,000 ล้านบาทขึ้นไป บริษัทมีข้อได้เปรียบจากความสามารถในการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงแพลตฟอร์มการซื้อขายพลังงาน Peer-to-Peer ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่พัฒนาขึ้นโดย Gunkul Spectrum

ผลดำเนินงานในครึ่งปีแรก บริษัทกันกุล มีรายได้ 5,002.69 ล้านบาท กำไรสุทธิ 761.43 ล้านบาท ผลตอบแทน YTD +2.86% ในอนาคต Volt จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้น โดยสนับสนุนบริการในรูปแบบ B2C และการขยายไปยัง Marketplace พร้อมผลิตภัณฑ์พลังงาน 9-10 รายการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา นักวิเคราะห์คาดเป้าราคา 5.00 บาท (สูง) 2.70 บาท (ต่ำ) และ 3.76 บาท (เฉลี่ย)

เหตุผลหลักในการลงทุนในหุ้นโรงไฟฟ้า

ความกดดันด้านการดำเนินงานและผลตอบแทน

หุ้นโรงไฟฟ้ามีความเสี่ยงเช่นเดียวกับการลงทุนในหุ้นอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น แต่โดยทั่วไปมักให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินในสถาบันการเงิน

ความต่อเนื่องของกำไรจากการผลิต

ธุรกิจผลิตไฟฟ้ามักเสนอผลกำไรอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าของสังคมยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ปัจจัยนี้เป็นแรงหนุนให้ธุรกิจโรงไฟฟ้าสร้างผลกำไรสูงในระยะยาว

โอกาสการขยายในอนาคต

ธุรกิจโรงไฟฟ้าสามารถเติบโตเพิ่มเติมได้ด้วยการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่หรือการเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ตัวอย่างการสนับสนุนจากรัฐบาลบางครั้งให้ความชอบ หรือสิ่งจูงใจอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการลงทุนด้านพลังงานสะอาด

วิธีการซื้อขายหุ้นโรงไฟฟ้า

วิธีที่ 1 เลือกโบรกเกอร์หุ้นไทย

สำหรับการซื้อขายหุ้นโรงไฟฟ้าที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย เช่น GULF, BGRIM, BANPU เป็นต้น คุณจำเป็นต้องเปิดบัญชีหลักทรัพย์กับบริษัทโบรกเกอร์ไทยที่มีอยู่ เช่น บริษัท หลักทรัพย์บัวหลวง, บริษัท หลักทรัพย์กสิกรไทย หรือ บริษัท หลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เป็นต้น

เงื่อนไขการเปิดบัญชีและค่าธรรมเนียมการเทรดอาจแตกต่างกันไป ควรเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมตามความต้องการของคุณ โปรแกรมเทรดที่นิยม เช่น STREAMINGPRO และ ASPEN เป็นเครื่องมือหลักที่นักเทรดใช้

จำนวนหุ้นขั้นต่ำที่สามารถซื้อได้คือ 100 หุ้น ตัวอย่างการคำนวณ: หากคุณเลือกซื้อหุ้น GULF จำนวน 100 หุ้น ที่ราคา 50 บาท คุณจะต้องลงทุน 5,000 บาท หากราคาขึ้นเป็น 55 บาท กำไรจะอยู่ที่ 500 บาท

วิธีที่ 2 ซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศในรูปแบบ CFD

อีกทางเลือกหนึ่งคือการใช้บริการโบรกเกอร์ต่างประเทศที่อนุญาตให้ซื้อขายสินค้าในรูปแบบ CFD (Contract for Difference) ซึ่งเป็นการเทรดราคาที่แตกต่างจากการซื้อหุ้นจริง

ข้อดีของการเทรด CFD:

  • สามารถเทรดได้ทั้งสองทิศทาง ขาขึ้นและขาลง
  • มีระบบเลเวอเรจ ช่วยให้ใช้ทุนต่ำลงแต่สามารถทำกำไรได้มากขึ้น
  • สามารถเลือกเทรดสินค้าหลากหลาย เช่น หุ้น ทองคำ เงิน สัญญาแลกเปลี่ยน ดัชนี

ตัวอย่าง: บริษัท MiTrade เป็นโบรกเกอร์ที่ให้บริการเทรด CFD ซึ่งสามารถเข้าใช้บริการผ่านเว็บไซต์หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันสำหรับมือถือและคอมพิวเตอร์ เงินลงทุนเริ่มต้นต่ำเพียง 50 ดอลลาร์ และใช้เวลาเพียง 3 นาทีในการสมัคร

สรุการลงทุนในหุ้นโรงไฟฟ้า

จากการวิเคราะห์ข้อมูลหลายแหล่ง สรุปได้ว่า หุ้นโรงไฟฟ้า ถูกมองว่าเป็น “Defensive Stocks” หรือหุ้นปลอดภัย เนื่องจากพลังงานไฟฟ้าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินงานทั้งภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือน ความสำคัญของความเสถียรในการจัดหาพลังงานทำให้การลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้เป็นเครื่องมือในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ต หรือสำหรับนักลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ หุ้นโรงไฟฟ้าจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนไทย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการสร้างพอร์ตการลงทุนที่สมดุลและยั่งยืนในระยะยาว

Lihat Asli
Halaman ini mungkin berisi konten pihak ketiga, yang disediakan untuk tujuan informasi saja (bukan pernyataan/jaminan) dan tidak boleh dianggap sebagai dukungan terhadap pandangannya oleh Gate, atau sebagai nasihat keuangan atau profesional. Lihat Penafian untuk detailnya.
  • Hadiah
  • Komentar
  • Posting ulang
  • Bagikan
Komentar
0/400
Tidak ada komentar
  • Sematkan

Perdagangkan Kripto Di Mana Saja Kapan Saja
qrCode
Pindai untuk mengunduh aplikasi Gate
Komunitas
Bahasa Indonesia
  • 简体中文
  • English
  • Tiếng Việt
  • 繁體中文
  • Español
  • Русский
  • Français (Afrique)
  • Português (Portugal)
  • Bahasa Indonesia
  • 日本語
  • بالعربية
  • Українська
  • Português (Brasil)