Inflasi vs Deflasi: Apa Perbedaan Utama bagi Investor

เมื่อพูดถึงภาวะเศรษฐกิจ คำว่า เงินเฟ้อ มักจะบ่อยครั้งที่ปรากฏในข่าวสาร แต่บอกตรงๆ ว่าคนส่วนใหญ่ยังไม่ได้เข้าใจจริงว่ามันส่งผลกระทบต่อกระเป๋าของเราอย่างไร บทความนี้จะพูดถึง เงินเฟ้อ ตั้งแต่พื้นฐาน สาเหตุการเกิดขึ้น ไปจนถึงวิธีการรับมือที่เหมาะสม

เงินเฟ้อคืออะไร ให้เข้าใจแบบง่ายๆ

เงินเฟ้อ ในศัพท์เศรษฐศาสตร์คือภาวะราคาสินค้าและบริการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่าย ก็คือเงินของเราซื้ออะไรได้น้อยลงแต่ละวัน

ตัวอย่างที่เห็นชัดเจน

นาย A ถือเงิน 50 บาทไปซื้อข้าว เมื่อ 5 ปีที่แล้วได้ 5 จาน แต่วันนี้ได้เพียง 1 จาน ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ตอบง่ายๆ ก็เพราะราคาข้าวขึ้น ซึ่งนั่นเองคือ เงินเฟ้อ ในการกระทำของมัน

ไม่ใช่เพียงแค่ข้าวนะ ทุกอย่างราคาสูงขึ้น ตั้งแต่น้ำมัน ไข่ ผัก เนื้อสัตว์ ค่าเดินทาง ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับภาวะ เงินเฟ้อ

เงินเฟ้อเกิดจากอะไร

3 สาเหตุหลักที่นำมาซึ่ง เงินเฟ้อ

1. ความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นแต่อุปทานไม่ทัน (Demand Pull Inflation) เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว คนมีเงินจ่ายมากขึ้น ต้องการซื้อสินค้าและบริการเพิ่ม แต่ผู้ผลิตไม่สามารถส่งมอบเพียงพอได้ ผู้ขายก็ใช้โอกาสนี้ขึ้นราคา

2. ต้นทุนการผลิตพุ่งสูง (Cost Push Inflation) ราคาวัตถุดิบสากล เช่น น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ เหล็ก ทองแดง ปรับตัวสูงขึ้น ผู้ผลิตจึงต้องขึ้นราคาสินค้าสิ่งของ เพื่อรักษากำไรของตัวเอง

3. รัฐบาลปั่นเงิน (Printing Money Inflation) เมื่อรัฐบาลโพสต์เงินเข้าระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ปริมาณเงินสูงขึ้นแต่สินค้ายังเท่าเดิม จึงกลายเป็น เงินเฟ้อ ที่หนักขึ้น

ตอนนี้ เงินเฟ้อ สากลเกิดจากอะไร

ในปัจจุบัน โลกเผชิญกับ เงินเฟ้อ ที่มีรูปแบบผสม ดังนี้

  • เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวแต่เร็ว หลังวิกฤตโควิด-19 คนเร่งซื้อของ (revenge spending) จึงเกิด เงินเฟ้อ ด้านอุปสงค์
  • ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ และชิปเซมิคอนดักเตอร์ ทำให้ต้นทุนสูง เงินเฟ้อ จากผู้ผลิต
  • ราคาพลังงานพุ่งท้องฟ้า น้ำมันดิบและก๊าซเพิ่มขึ้นหลายเท่า เพราะปัญหาจีโอโพลิติกสและข้อจำกัดการผลิต
  • นโยบายการเงินหลวม ธนาคารกลางรักษาอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มปริมาณเงินในระบบ

ตามข้อมูล IMF มกราคม 2567 เศรษฐกิจโลกคาดเติบโตที่ 3.1% ปี 2567 แต่ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยประวัติศาสตร์ เนื่องจากนโยบายการเงินตึงตัว

ใครได้ประโยชน์ ใครเสีย จากภาวะ เงินเฟ้อ

กลุ่มที่ได้ประโยชน์

ผู้ประกอบการ พ่อค้า ผู้ถือหุ้น

  • สามารถขึ้นราคาสินค้าและบริการตามอัตรา เงินเฟ้อ หรือมากกว่า
  • ธุรกิจเติบโต การจ้างงานเพิ่ม รายได้ขึ้น

ผู้ถือหนี้

  • เมื่อ เงินเฟ้อ เกิด มูลค่าหนี้ที่ต้องจ่ายลดลง (เงินนวมลูกหนี้)

เจ้าของธนาคาร ประกัน

  • ส่วนต่างดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น กำไรสูง

กลุ่มที่เสีย

พนักงานเงินเดือนประจำ

  • เงินเดือนขึ้นช้า เพิ่มในอัตราต่ำกว่า เงินเฟ้อ ทำให้รายได้แท้ลดลง

ผู้เก็บเงิน ผู้บริโภค

  • อำนาจซื้อน้อยลง ของแพงขึ้น ชีวิตเพิ่มเติมยากขึ้น

เจ้าหนี้

  • เงินที่กู้ให้ออกไปมูลค่าลดลง

ผลกระทบของ เงินเฟ้อ ต่อเศรษฐกิจและคนธรรมดา

ต่อประชาชน

  • ค่าครองชีพสูงขึ้น พรุ่งนี้คุณซื้ออะไรได้เสมอ ไปวันหน้าซื้ออะไรได้น้อยลง
  • เงินเดือน / รายได้ไม่ทัน เพิ่มช้า เพิ่มน้อย
  • การออมจืด เงินที่เก็บไว้มูลค่าต่ำลง ถ้าไม่ลงทุนก็สูญเสีย

ต่อธุรกิจ

  • ยอดขายผันผวน ราคาแพง ผู้ซื้อลดลง
  • อัตราการผลิตชะลอ ต้นทุนสูง มีกำไรน้อย ต่อให้มีการลดราคา
  • การว่างงาน ธุรกิจไม่ขยาย ปลดคนออก

ต่อประเทศ

  • เศรษฐกิจชะลอตัว การเพิ่มขึ้นของ GDP ลดลง
  • ความเสี่ยงมากขึ้น ระบบการเงินไม่สมดุล ฟองสบู่เกิดขึ้นในสินทรัพย์

กรณีถ้าเข้าสู่ Stagflation (เงินเฟ้อ + เศรษฐกิจถดถอย)

นี่คือสถานการณ์ที่ไม่มีใครอยากเห็น ราคาสูง เศรษฐกิจน้อยลง การว่างงานสูง คนยากจน สินค้ามีราคาแต่ไม่มีใครซื้อ

ดูข้อมูลเงินเฟ้อของไทยในรอบ 50 ปี

ท่องย้อนไปในอดีต ไทยเคยเผชิญกับ เงินเฟ้อ ที่รุนแรงมาก่อน

  • 2517: ทะลุ 24.3% เพราะสงครามอิสราเอล-อาหรับ ราคาน้ำมันระเบิด
  • 2523: 15% + จากสงครามอิรัก-อิหร่าน
  • 2541: 7.89% หลังวิกฤติเศรษฐกิจ 2540 ค่าบาทอ่อนค่า
  • 2551: 5.51% ทั่วไป
  • 2565: 7.10% เพราะสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ข้อมูล CPI ประจำเดือนมกราคม 2567:

  • ดัชนีราคาผู้บริโภค: 110.3 (เพิ่ม 0.3% YoY)
  • เงินเฟ้อ ทั่วไป: ร้อยละ 1.11 (ลดลงต่อเนื่อง เดือนที่ 4)
  • CPI MoM: +0.02 % (จากเดือนก่อน)

ปัจจัยลดอัตรา: การลดราคาพลังงาน และผักสดที่ปล่อยตลาดเพิ่ม

เนื้อสัตว์และผักเดินทางราคามากมาย

รายการ 2564 2565 2566 2567
หมูเนื้อแดง 137.5 บาท/กก. 205 บาท/กก. 125 บาท/กก. 133.31 บาท/กก.
น้ำมันดีเซล 28.29 บ./ลิตร 34.94 บ./ลิตร 33.44 บ./ลิตร 40.24 บ./ลิตร
ก๊าซหุงต้ม 318 บ./ถัง 393 บ./ถัง 423 บ./ถัง 423 บ./ถัง

เงินเฟ้อ vs เงินฝืด ต่างกันตรงไหน

ถ้า เงินเฟ้อ คือราคาสูงขึ้น แล้ว เงินฝืด (Deflation) ก็คือตรงข้าม ราคาลดลง

เงินฝืด เกิดเมื่อ:

  • ความต้องการลดลง คนไม่อยากซื้อ
  • ปริมาณเงินในระบบไม่เพียงพอ
  • ผู้ผลิตลดราคาเพื่อบังคับขาย

ปัญหาของ เงินฝืด:

  • คนรอให้ราคาลดต่อ ไม่ซื้อตอนนี้ → ยอดขายลดลง
  • ธุรกิจกำไรน้อย → ลดราคาต่อ → เศรษฐกิจตกต่ำ
  • อัตราการว่างงานสูง ประชาชนยากจน

ทั้ง เงินเฟ้อ และ เงินฝืด สุดขั้วต่างก็ไม่ดี ต้องหาสมดุล

ลงทุนเวลาเกิด เงินเฟ้อ ต้องทำอะไร

วิธีการรับมือ

1. หลีกเลี่ยงการก่อหนี้เสีย ในยุค เงินเฟ้อ การกู้ยืมที่ไม่ได้นำมาลงทุนให้ได้ผล จะทำให้คุณสูญเสีย เงินที่กู้มาจากเดิมถ้าต่อเนื่อง 5 ปี จะกลายเป็นเงินน้อยลง เมื่อเงินเฟ้อเกิด

2. วางแผนการลงทุนสมควร

  • ฝากเงินปกติได้ดอกเบี้ยต่ำกว่า เงินเฟ้อ → เสีย
  • ลงทุนหุ้น / กองทุน / อสังหาริมทรัพย์ → ได้ผลตอบแทนสูง

3. ลงทุนในสินทรัพย์มั่นคง

ทองคำ

  • ราคาเคลื่อนตัวไปในทิศเดียวกับ เงินเฟ้อ
  • เมื่อ เงินเฟ้อ สูง ทองแพงขึ้น
  • ระยะยาวปลอดภัย ไม่เสื่อมสภาพ

หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์

หุ้นธนาคาร

  • ดอกเบี้ยขึ้น → กำไรส่วนต่างเพิ่ม
  • ลูกหนี้ต้องจ่ายเพิ่ม → กำไรสูง

หุ้นประกัน

  • ลงทุนในตราสารหนี้มี coupon ต่ำ
  • เมื่อ เงินเฟ้อ สูง ธนาคารกลางปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น
  • coupon ของตราสารใหม่ขึ้น → ราคาหุ้นประกัน ขึ้น

หุ้นอาหาร

  • อาหารเป็นสิ่งจำเป็น คนต้องกิน
  • มีอำนาจ margin ในการกำหนดราคา
  • ในยุค เงินเฟ้อ สั่ง quantity ลดแต่ margin ขึ้น

หุ้นพลังงาน

  • ตัวอย่าง ปตท. H1 2565 กำไรสุทธิ 64,419 ล้านบาท เติบโต 12.7%
  • เพราะราคาน้ำมันสูง ยอดขายคูณขึ้น

ตราสารหนี้แบบปลอด เงินเฟ้อ

  • Floating Rate Bond → ดอกเบี้ยปรับตามอัตรา benchmark
  • Inflation Linked Bond → coupon ปรับตามอัตรา เงินเฟ้อ
  • ศึกษาอัตรา rating ให้ดีก่อนซื้อ

กองทุนอสังหาริมทรัพย์

  • ค่าเช่าสัดส่วนตามเงินเฟ้อ
  • ไม่ผันผวนตามตลาดหุ้น
  • ลงทุนระยะยาว

การติดตามข้อมูล

ทุกเดือน กระทรวงพาณิชย์เก็บข้อมูลราคาสินค้า 430 รายการ คำนวณเป็น ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ถ้า CPI เพิ่ม YoY มากกว่า 3-4% ระวัง เงินเฟ้อ ถ้ามากกว่า 10% ถือว่า Hyper Inflation เสี่ยงอันตราย

สรุป

เงินเฟ้อ คือภาวะธรรมชาติของเศรษฐกิจ ขึ้นลงตามวัฏจักร แต่ถ้า เงินเฟ้อ เกินควร (Hyper Inflation) ก็เป็นวิกฤติ

ความสำคัญ:

  • เงินเฟ้อ ปานกลางดี ช่วยเศรษฐกิจเติบโต
  • เงินเฟ้อ รุนแรง ทำให้ประชาชนยากจน ธุรกิจสะดุด
  • เงินฝืด ยิ่งเลวร้าย เศรษฐกิจหน้าดิ่ง

วิธีปรับตัว:

  • ลงทุนสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง
  • เลือกหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากภาวะ
  • ติดตามข้อมูล CPI ตลอดเวลา
  • หลีกเลี่ยงการก่อหนี้ที่ไม่มีประโยชน์

นักลงทุนควรเข้าใจ เงินเฟ้อ เพื่อไม่ให้สูญเสีย และเพื่อสร้างกำไรจากโอกาสของมัน

Lihat Asli
Halaman ini mungkin berisi konten pihak ketiga, yang disediakan untuk tujuan informasi saja (bukan pernyataan/jaminan) dan tidak boleh dianggap sebagai dukungan terhadap pandangannya oleh Gate, atau sebagai nasihat keuangan atau profesional. Lihat Penafian untuk detailnya.
  • Hadiah
  • Komentar
  • Posting ulang
  • Bagikan
Komentar
0/400
Tidak ada komentar
  • Sematkan

Perdagangkan Kripto Di Mana Saja Kapan Saja
qrCode
Pindai untuk mengunduh aplikasi Gate
Komunitas
Bahasa Indonesia
  • بالعربية
  • Português (Brasil)
  • 简体中文
  • English
  • Español
  • Français (Afrique)
  • Bahasa Indonesia
  • 日本語
  • Português (Portugal)
  • Русский
  • 繁體中文
  • Українська
  • Tiếng Việt