เอไอ เอเจนต์ เป็นเครื่องมือที่ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่เพื่อการสร้างเนื้อหาโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเกมที่ต้องการเนื้อหามาก ณ ปัจจุบัน มีโครงการหลายโครงการที่ได้แสดงศักยภาพของเทคโนโลยีนี้ เช่น เกมหมากรุกระหว่างประเทศ 'Leela vs the World'พัฒนาโดย Mudulas Labs, 'AI Town' ที่เปิดตัวโดย a16z และบริษัทในพอร์ตการลงทุนของมัน และเกม virtual companion 'AI Waifu‘ ที่รวม Virtual Protocol มาด้วย

ภายใต้แนวโน้มนี้ทีมผู้พัฒนาเกมแบบดั้งเดิมก็เริ่มการสำรวจ 'AI Agent +Web3' อย่างใจจด ในนั้น สตูดิโอเกมที่อยู่เบื้องหลัง Void Labs วางแผนที่จะนำ AI Agent เข้ามาในเกมบทบาทแอ็คชั่นชื่อดังระดับ AAA ที่พัฒนาขึ้นBlade of God X'เพื่อเพิ่มความสามารถในการเล่นและความหลากหลาย ซึ่งจะเพิ่มความสนุกสนานให้กับผู้เล่น.'

จาก Web2 ไปสู่ Web3: สำรวจเส้นทางการพัฒนาใหม่

ตั้งแต่ปี 2006 สตูดิโอเกมที่อยู่เบื้องหลัง Void Labs ได้เริ่มดําเนินการสํารวจในอุตสาหกรรมเกมโดยประสบกับขั้นตอนต่างๆของการพัฒนาตั้งแต่เกมแบบสแตนด์อโลนไปจนถึง MMORPG และเกมมือถือ ด้วยโลกาภิวัตน์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นทีมงานค่อยๆตระหนักถึงข้อ จํากัด ของตลาดเกม Web2 ในแง่ของกําลังซื้อและ Go-to-Market (GMT) ระหว่างประเทศและเริ่มแสวงหาเส้นทางการพัฒนาใหม่ การเติบโตของเทคโนโลยีบล็อกเชนได้ให้รูปแบบธุรกิจใหม่และวิธีการโต้ตอบกับผู้ใช้สําหรับสนามเกมและลักษณะการกระจายอํานาจได้ทําลายข้อ จํากัด ทางภูมิศาสตร์และแพลตฟอร์มของเกมแบบดั้งเดิมทําให้ผู้เล่นทั่วโลกสามารถเล่นเกมในสภาพแวดล้อมที่ยุติธรรมและโปร่งใส

นอกจากนี้พวกเขายังชี้ให้เห็นว่า ด้วยการพัฒนาทางเทคโนโลยี AI "ความสัมพันธ์ในการผลิต" ได้ถูกนิยามใหม่ และระบบสกุลเงินทางดั้งเดิมไม่สามารถนำไปใช้กับความสัมพันธ์ในการผลิตที่ใหม่ได้อีกต่อไป ความโปร่งใส ความต้านทานการปลอมแปลง และความกระจายของเทคโนโลยีบล็อกเชนให้การสนับสนุนที่ดียิ่งขึ้นสำหรับความสัมพันธ์ในการผลิตที่ใหม่นี้ ร่วมกับทางเทคโนโลยี AI มันไม่เพียงเพิ่มความร่ำรวยของการโต้ตอบภายในเกมเท่านั้น แต่ยังสร้างโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมที่ซับซ้อนได้อีกด้วย

ดังนั้น จากข้อความที่ได้จากการวิเคราะห์เกี่ยวกับแนวโน้มการพัฒนาในอุตสาหกรรมเกมมิ่งในอนาคต พวกเขาเริ่มสำรวจการพัฒนาเกมแบบ Web3 มาหลายปีที่ผ่านมา และเปิดตัวเกมบู้ม Blade of God X ที่ผสมภาพประกอบด้วย AI ในปี 2023 ซึ่งเกมนี้ล่าสุด ได้รับล้านดอลลาร์จากสถาบันชั้นนำเช่น Delphi Ventures, OKX Ventures, Yield Guild Games, และ Longhash Capital

"Blade of God X" เป็นเกมสวมบทบาทแอคชั่นที่ผสมผสานองค์ประกอบของตํานานนอร์สและคธูลูโดยใช้รูปแบบเกมที่เหมือนวิญญาณ ในเกมผู้เล่นจะพรรณนาถึง "ผู้สืบทอด" ที่เกิดใหม่ผ่านวัฏจักรออกจาก Muspelheim และข้ามผ่านภูมิภาคลึกลับเช่น Voidom, Primglory และ Trurem ผู้เล่นสามารถเลือกที่จะเสียสละหรือไถ่ถอนเพื่อรับสิ่งประดิษฐ์หรือได้รับภูมิปัญญาจากเทพเช่น Allfather Odin และเทพเจ้าชั่วร้าย Loki จึงเปลี่ยนชะตากรรมของพวกเขา นอกจากนี้ "Blade of God X" กําลังพัฒนาระบบ AI Agent อย่างแข็งขันเพื่อเพิ่มการโต้ตอบของเกม เกมดังกล่าวจะปรับทิศทางการพัฒนาเป็นระยะตามประสิทธิภาพของผู้เล่นเพิ่มความดื่มด่ําและการมีส่วนร่วมของผู้เล่น

การฝึกอบรมและเทคโนโลยีแกน: เพิ่มพลังปัญญาประดิษฐ์

ก่อนหน้านี้ ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดและ Google ได้เปิดตัวเกมที่ชื่อ "Stanford Town" ซึ่งมีตัวละครเสมือน 25 ตัวที่ถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีโมเดลภาษาขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีปฏิสัมพันธ์และใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมแบบแกะสร้าง การพยายามนี้ไม่เพียงเพิ่มความสนใจของนักพัฒนาเกมใน AI Agents เท่านั้น แต่ยังดึงดูดความสนใจจากผู้เล่นมากมาย อย่างไรก็ตาม การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีประเภทนี้ยังพบเจอกับความท้าทาย เช่น ต้นทุนการผลิตสูง ความช้าในการตอบสนอง และเนื้อหาที่ซ้ำซาก ทีม Void Labs ยังได้ประกาศล่าสุดว่าพวกเขาจะนำ AI Agents มาใช้ในเกม Blade of God X ในรอบทดสอบถัดไป และพยายามเอาชนะความท้าทายเหล่านี้

ในเกม Blade of God X พฤติกรรมและการตัดสินใจของ AI Agents สามารถควบคุมได้โดยโมเดลที่มีขนาดแตกต่างกัน โมเดลขนาดเล็กจัดการงานง่าย ๆ เช่นการต่อสู้ในขณะที่โมเดลขนาดใหญ่มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการกลยุทธ์และการตัดสินใจที่ซับซ้อนมากขึ้น การปรับโมเดลนี้ช่วยให้สามารถใช้ตรรกะของเกมที่ซับซ้อนได้โดยไม่ต้องเสียสละประสิทธิภาพ ในเวลาเดียวกันซึ่งแตกต่างจากการควบคุมพฤติกรรมของตัวละครที่ จํากัด ผ่านแผนผังพฤติกรรมเครื่องจักรของรัฐที่เรียบง่าย Blade of God X แนะนําแนวคิดของ "การฝึกอบรมการเสริมแรง" สนับสนุนการตัดสินใจพฤติกรรม AI ผ่านเครือข่ายประสาทเทียมปรับปรุงความเป็นอิสระและประสิทธิภาพของ AI และทําให้เนื้อหาเกมคาดเดาได้น้อยลงและใช้ประโยชน์จากผู้เล่นได้ ทีม Void Labs ระบุว่าในระหว่างการฝึกอบรมตัวแทน AI พวกเขาใช้ข้อมูลพฤติกรรมผู้ใช้มากกว่าหกล้านรายการเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการฝึกอบรมเสริมกําลังสําหรับการเล่นเกมที่แตกต่างกันและดําเนินการจําลองสแต็คหลายแสนรายการสําหรับแต่ละอาชีพ

หลังจากการฝึกอบรมเสริมกําลังเสร็จสิ้น Blade of God X จะใช้ 3D Laber โดยใช้วิสัยทัศน์และภาษาเป็นปัจจัยการผลิตทําให้ AI สามารถจดจําและเข้าใจสภาพแวดล้อมของเกมได้อย่างแม่นยํายิ่งขึ้นและปรับปรุงประสบการณ์ที่สมจริงของเกม เพื่อลดภาระของเซิร์ฟเวอร์และลดเวลาตอบสนองลงอย่างมาก AI ที่ปรับให้เหมาะสมสามารถทํางานโดยตรงบน GPU อุปกรณ์มือถือของผู้ใช้ นอกจากนี้เพื่อลดความยากในการดําเนินงานของผู้เล่นทีม Void Labs ได้ออกแบบแดชบอร์ด AI Agent ที่ปรับแต่งได้สําหรับผู้ใช้ทําให้ผู้เล่นสามารถปรับรูปแบบการต่อสู้และการกําหนดค่าทักษะของ AI ตามความชอบส่วนตัวทําให้ความสามารถในการคิดและการประมวลผลของ AI ใกล้เคียงกับผู้เล่นมากขึ้น ทีมงานเรียกสิ่งนี้ว่า "เล่น ARPG เพื่อฝึกตัวแทน AI"

'เอเจนต์เป็นบริการ': สร้างเอเจนต์ AI ที่ปรับให้เหมาะกับบุคคล

ซึ่งแตกต่างจากความพยายามก่อนหน้านี้ในการเพิ่มความแข็งแกร่งของ AI ผ่านการเรียนรู้ของเครื่องเพียงอย่างเดียวทีม Void Labs มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงประสบการณ์การเล่นเกมของผู้เล่นมากขึ้นโดยแนะนําแนวคิดใหม่ 'Agents as a Service' พวกเขาระบุว่าในโหมด 'Agents as a Service' ตัวแทน AI ไม่เพียง แต่ทําหน้าที่เป็นบทบาทเสริมเมื่อผู้เล่นออนไลน์ แต่ยังเล่นเกมต่อไปในฐานะฝาแฝดดิจิทัล AI Twins เมื่อผู้เล่นออฟไลน์ กล่าวคือตัวแทน AI ของผู้เล่นจะมีลักษณะคล้ายกับผู้เล่นอย่างมากในแง่ของความสามารถในการคิดและการประมวลผล ตัวอย่างเช่นคุณสามารถเชิญตัวแทน AI ของเพื่อนมาช่วยในการต่อสู้เมื่อพวกเขาไม่ได้ออนไลน์และ AI Agent ของพวกเขาจะเลียนแบบสไตล์การเล่นเกมและการตัดสินใจของพวกเขาเช่นทักษะที่ติดตั้งนิสัยการต่อสู้และวิธีการส่งออกซึ่งจะช่วยเพิ่มความสมจริงและการมีส่วนร่วมของเกม นอกจากนี้ ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน Blade of God X สามารถมั่นใจได้ว่ากิจกรรม AI Agent มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ และสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่แท้จริงให้กับผู้เล่นได้ ตัวอย่างเช่นแม้ว่าตัวแทน AI ของคุณจะเข้ามาแทนที่ในงานของทีมและได้รับชัยชนะคุณก็ยังสามารถรับรางวัลที่เกี่ยวข้องได้ ทีมงานยังเปิดเผยแผนการที่จะพัฒนาฟีเจอร์ Group AI Agents แบบโต้ตอบที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นในระบบ AI Agent รุ่นต่อไป ซึ่งช่วยให้ AI สามารถร่วมมือและแข่งขันกันได้

ส่วนสำคัญของเอเจนต์เป็นบริการคือการใช้การฝึกอบรมแบบเสริม Visual Language Action (VLA) ที่ขึ้นอยู่กับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ วิธีนี้รวมมิติทางการมองเห็น ภาษา และการกระทำซึ่งไม่เพียงช่วยให้ AI รู้จำวัตถุและฉากในเกมได้ดียิ่งขึ้น แปลและดำเนินคำสั่งของผู้เล่นได้อย่างถูกต้อง แต่ยังตัดสินใจพฤติกรรมของมันในเกมโดยขึ้นอยู่กับข้อมูลทางการมองเห็นและภาษา

นอกจากนี้โหมด Agents as a Service ยังเป็นบริการอัตโนมัติอย่างต่อเนื่องซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นออฟไลน์หรือไม่ใช้งานดังนั้นจะไม่รบกวนประสบการณ์การเล่นเกมปกติของผู้เล่น ในทางตรงกันข้ามผ่านโหมดนี้ Blade of God X ไม่เพียง แต่ลดการพึ่งพาเกม MMORPG ของผู้เล่นที่ออนไลน์ในเวลาเดียวกัน แต่ยังปรับปรุงการมีส่วนร่วมโดยรวมของผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ในระบบนิเวศของเกม ในอนาคตทีมงานยังวางแผนที่จะแนะนําตัวเลขสุ่มแบบ on-chain และส่วนประกอบอื่น ๆ ใน Balde of God X ทําให้ AI Agents สามารถสร้างอารมณ์ที่เป็นเอกลักษณ์และพฤติกรรมที่แข็งแกร่งได้อย่างอิสระเพื่อทําลายปัญหาของวงจรการตายของเนื้อหาและตระหนักถึงโหมด AIGC ที่ปรับขนาดได้และรองรับคุณค่าอย่างแท้จริง ดังนั้นในฟังก์ชั่น Blade of God X AI Agent รุ่นที่สาม AI Agents จะมีความสามารถในการสร้างเนื้อหาเกมอย่างอิสระตามเอ็นจิ้นเกมและไลบรารีวัสดุเพื่อให้ได้ 'Generative AI Agents'

Web3จำเป็นจริงหรือไม่ต้องใช้ AI?

หลังจากที่การนำเอเจนต์ AI ถูกพิจารณาว่าเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจในพื้นที่สกุลเงินดิจิตอล มันได้เริ่มเกิดการอภิปราย: โครงการเหล่านี้จำเป็นจริง ๆ ต้องการ AI หรือว่าพวกเขาเพียงแค่ตามแนวโครงสร้างแนวคิดเท่านั้น? ในการตอบคำถามนี้ ทีมงาน Void Labs ได้ให้ความรู้สึกของพวกเขาจากสนามเกมมิ่ง

โดยทั่วไปมาจากมุมมองของความสัมพันธ์ในการผลิต เครื่องมือ AI บนตลาดมักเน้นการเสริมสร้างผลิตภาพ เช่น เครื่องมือแก้ปัญหา AI และเครื่องมือวาด AI แต่ในปัจจุบันยังไม่มีเทคโนโลยีหรือทีมงานที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาทางการผลิตระหว่าง AI เช่น ปัญหาการโต้ตอบของสินทรัพย์ระหว่าง AI และมนุษย์ และปัญหาการทำธุรกรรมและการให้กำลังใจระหว่างโมเดล ทีมของ Void Labs ชี้แจงว่า Blade of God X พยายามเติมช่องว่างในตลาดนี้ โดยการรวมเกม AI และ Web3 ตัวอย่างเช่น ผ่านระบบโทเคนและตลาด AI Agent

ประการที่สองในแง่ของประสบการณ์การเล่นเกมการประยุกต์ใช้ AI แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญระหว่าง Web2 และ Web3 ในสภาพแวดล้อม Web2 วัตถุประสงค์หลักของ AI คือการเพิ่มการรักษาผู้เล่นและศักยภาพในการซื้อ แต่การปรับเปลี่ยนในแบบของคุณมี จํากัด โดยทั่วไปจะใช้ระบบประมวลผลและตัดสินใจข้อมูลแบบรวมศูนย์ขาดความยืดหยุ่นที่เพียงพอและการปรับแต่งส่วนบุคคล ในทางตรงกันข้ามในสภาพแวดล้อม Web3 ตัวแทน AI สามารถปรับแต่งและปรับให้เหมาะสมตามความต้องการเฉพาะของผู้เล่น ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้แต่ละคนมีโซลูชัน AI Agent ที่ไม่เหมือนใครเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้แต่ละคนในเกม PVP ให้มากที่สุด นี่คือสิ่งที่เราเรียกว่า "ตัวแทนเป็นบริการ"

นอกจากนี้ทีม Void Labs ยังกล่าวถึงปัญหาการรวมศูนย์ในการพัฒนาเครือข่ายแบบจําลอง AI โดยแต่ละรุ่นมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นําในตลาดแนวตั้งโดยการปรับปรุงประสิทธิภาพการคํานวณและความแม่นยําของผลลัพธ์ อย่างไรก็ตามพวกเขาหวังว่าในอนาคตโมเดล AI สามารถพัฒนาไปสู่ทิศทางของการเรียกฟรีซึ่งแต่ละรุ่นสามารถทํางานได้อย่างอิสระตามลักษณะของตัวเองและความต้องการของตลาดโดยไม่ถูก จํากัด โดยเครือข่ายส่วนกลางอีกต่อไป ในเครือข่ายแบบกระจายอํานาจตัวแทน AI แต่ละคนสามารถเป็นหน่วยงานทางเศรษฐกิจอิสระที่ได้รับรางวัลตามมูลค่าที่ผลิต ทีม Void Labs ชี้ให้เห็นว่าด้วยวิธีนี้ลักษณะการกระจายอํานาจของ Web3 ให้โหมดการทํางานใหม่และการกระจายมูลค่าสําหรับตัวแทน AI ซึ่งอาจเปลี่ยนความเข้าใจในปัจจุบันของเราเกี่ยวกับการโต้ตอบของ AI และการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจ

ความคืบหน้าล่าสุด

การทดสอบอัลฟ่ารอบแรกสําหรับ "Blade of God X" จบลงเรียบร้อยแล้วเมื่อปลายเดือนมีนาคม โดยมีการสร้างบัญชีทั้งหมด 2445 บัญชีและแจกจ่ายรหัส 3660 นอกจากนี้ยังได้รับคะแนน 5.0 ในการทดสอบอัลฟ่าของ Epic Store ทีม Void Labs ได้ประกาศว่าพวกเขาจะปรับใช้ AI Agents อย่างเต็มที่ในการทดสอบรอบที่สองที่กําลังจะมาถึง ทําให้ผู้เล่นสามารถโต้ตอบได้ในสถานการณ์ต่างๆ มากกว่าสิบสถานการณ์ พวกเขายังเน้นว่าการสํารวจตัวแทน AI ของพวกเขาไม่ได้ จํากัด อยู่ที่ขั้นตอนปัจจุบันเท่านั้น เป้าหมายสูงสุดคือการเปลี่ยน AI ให้เป็นเอนทิตีอัจฉริยะที่สามารถแยกวิเคราะห์เอ็นจิ้นเกมและตรรกะได้ AI เหล่านี้จะสามารถใช้เครื่องมือเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้นและเอ็นจิ้นเกมเพื่อสร้างโหมดและกฎเกมใหม่

สรุป ทีมงาน Void Labs คาดหวังว่า AI Agents จะไม่เพียงเครื่องมือช่วยเสริมในเกมเท่านั้น พวกเขาต้องการให้เป็นพลังงานทางเทคนิคหลักที่สามารถมีส่วนร่วมในทุกด้านของการดำเนินการเกม นวัตกรรมเนื้อหา และการพัฒนาชุมชน

คำแถลง:

1. บทความนี้ถูกพิมพ์ใหม่จาก [Gatesubstack] ชื่อเดิมคือ "Web3 + AI Agent: BOGX ทําลายจินตนาการของเกมแบบดั้งเดิมได้อย่างไร" ลิขสิทธิ์เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ [LINDABELL] หากคุณมีข้อขัดแย้งใด ๆ เกี่ยวกับการพิมพ์ซ้ำ โปรดติดต่อ Gate Learn Team, ทีมจะดำเนินการโดยเร็วที่สุดตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง

2. คำปฏิเสธ: มุมมองและความคิดเห็นที่แสดงอยู่ในบทความนี้ แทนแค่มุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น และไม่เกิดขึ้นเป็นการให้คำแนะนำทางการลงทุนใด ๆ

3. เวอร์ชันภาษาอื่นของบทความถูกแปลโดยทีม Gate Learn ซึ่งไม่ได้กล่าวถึงในGate.io, บทความที่แปลอาจไม่สามารถทำสำเนา แจกจ่าย หรือลอกเลียนได้